มูลนิธิพระสีวลีศิลปินดาราสายบุญ

Suporn Kulwatnantachai วัดโบราณขนาดใหญ่​ มีเกจิอาจารย์​ชื่อดังคือหลวงพ่อพริ้ง​ เดิมชื่อวัดบางคี่​ ไม่ทราบประวัติและนามผู้สร้าง​ วัดสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา​ หลังเสียกรุงศรี​อยุธยาครั้งที่​ 2​ ได้กลายเป็นวัดร้าง​ ​จนสมัยกรุงรัตน​โกสินทร์​ ผู้คนได้ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณวัดเป็นจำนวนมาก​ ชาวบ้านจึงช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์​วัด​ ได้รับนามว่าวัดบางปะกอกตามชื่อคลอง​ สันนิษฐาน​ว่าได้รับการบูร​ณ​ะ​ปฏิสังขรณ์​ในสมัยรัชกา​ลที่​ 4​ ในยุคหลวงพ่อ​พริ้งเป็นเจ้าอาวาส​วัด​ เมื่อครั้งสงคราม​ โลก​ครั้ง​ที่​ 2​ วัดเป็นที่หลบภัยของประชาชน​ เจ้านายในวังก็ต่างมาพึ่งบารมีที่วัด​ วัดตั้งอยู่​ริมคลองบางปะกอกฝั่งตะวันตก​ ในซอยราษฎร์​บูรณะ​ 14 เข้ามาไม่ลึกวัดจะอยู่ซ้ายมือ​ มีป้ายบอกทางไปศาลาหลวงพ่อ​พริ้ง​ เลยเข้าไปทางซ้ายมือจะเห็นพระอุโบสถ​ตั้งคู่​กับ​พระวิหาร​ แบบขนบเดิม​ทั้ง​คู่ มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบันพระอุโบสถ​มีรูปพระปางเล​ไล​ย์​ หันหน้า​ไป​ทางทิศ​ตะวันออก​สู่​คลอง​ มีระเบียงรอบ เสาแปดเหลี่ยม​ หัวเสามีบัวแวง​ ประตู​และ​หน้าต่าง​มี​ซุ้ม​หน้านาง​ ไม่ได้เปิดให้เข้า​ ใบเสมาอยู่ในซุ้ม​โค้ง​ 8 ทิศ​ ปัจจุบันกำลังบูรณะ​กำแพงแก้ว​ ซุ้มประตู​ และฐานเจดีย์​ทรงปรางค์​ที่มุมทั้ง​ 4 พระวิหารอยู่ด้านขวา​มือ​ มีขนาดเล็กกว่า​ และไม่มีระเบียง​ ไม่ได้เปิดให้เข้าเช่นกัน​ ทราบว่ามีพระยืนทรงเครื่องแบบอยุธยา​ ด้านหน้ามี​เจดีย์​ทรง​ลังกา​ฐาน​กลม​ ย้อนกลับไปทางศาลา​หลวงพ่อ​พริ้ง​ ด้านขวามีเจดีย์​สีขาวฐานแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ เป็นทรงมอญซึ่งเหนือองค์​ระฆังจะเป็นปล้องไฉนขึ้นไปไม่มีบัลลังก์​ และฐานผาย ทิศ​เหนือมีวิหารต่อยื่นออกมา​ ไม่ได้เปิดให้เข้า​ ทิศ​ตะวันออก​เป็นศาลาหลวงพ่อ​พริ้ง​ มีรูปหล่อหลวงพ่อ​พ​ริ้งและกรมหลวง​ชุมพร​เปิดให้เข้าได้​ เมื่อ 2 สัปดาห์​ก่อนผมได้มาไหว้พระ​ 9 วัดแถบดาวคะนอง​ วันนี้ผมมาไหว้พระต่อแถบราษฎร์​บูรณะ​ เริ่มจากวัดสน​ วัดแจงร้อน​ วัดราษฎร์​บูรณะ​ และวัดประเสริฐ​สุทธาวาส​ ก่อนมาวัดบางปะกอก​ แล้วจะไปต่อวัดโพธิ์​แก้วครับ

Suporn Kulwatnantachai วัดโบราณขนาดใหญ่​พอควร​ เดิม​ชาว​บ้า​นเ​รียกว่าวัดกลาง​ เหตุเพราะวัดตั้งอยู่​กึ่งกลางของลำคลอง​ อีกวัดเรียกวัดนอกเพราะตั้งอยู่​ตรงปากคลองคือวัดราษฎร์​บูรณะ​ ไม่ทราบประวัติ​และนาม​ผู้สร้าง​ วัดสร้างขึ้นสมัย​อยุธยา​ ได้รับการบูร​ณ​ะ​ในสมัยรัชกา​ลที่​ 3​ มีเรื่อง​เล่าว่ามีชายชาวจีนซึ่งเลี้ยงหมูในแถบนั้น​ ได้พบเงิน​ 3 ตุ่ม​ จึงอธิฐาน​ว่า​ ถ้าได้เงินนี้ไปประกอบอาชีพ​แล้วร่ำรวย​ จะกลับมาบูรณะวัด​ ต่อมาชายชาวจีนคนนั้นร่ำรวย​ จึงกลับมาบูรณะวัด​ และได้ทูลเกล้า​ฯ​ ถวายรัชกา​ลที่​ 3​ สันนิษฐาน​ว่าชายชาวจีนคนนั้นคือพระประเสริฐ​วานิช​ (เส็ง)​ ต้นสกุลเศรษฐบุตร​ วัดตั้งอยู่​ริม​คลอง​ราษฎร์​บูรณะ​ฝั่งตะวันตก​ บนถนน​ราษฎร์​พัฒนา​ จากวัดราษฎร์​บูรณะ​มาวัดอยู่ซ้ายมือ​ เข้าทางประตูโรงเรียน​ จากลานจอดรถ​จะเห็นพระอุโบสถ​กับพระวิหารตั้งคู่กัน​ เป็น​แบบ​พระราช​นิยม​สมัย​รัชกา​ลที่​ 3​ ทั้งคู่​ ไม่มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบัน​ปูนปั้น​ประดับกระเบื้อง​ หันหน้า​ไป​ทาง​ทิศตะวันออก​สู่คลอง​ พระอุโบสถมีระเบียงรอบ​ เสาสี่เหลี่ยม​ขนาดใหญ่​ หัวเสาไม่มีบัว​ ประตู​และ​หน้าต่าง​มี​ซุ้ม​ปูนปั้น​​ มีหลวงพ่อสร้อสุวรรณ​รัตน์​ พระปางมารวิชัย​เป็น​พระประธาน​ ข้างหน้ามีพระ​อัครสาวก​ยืน​ และพระยืนปางห้ามสมุทร​ 2 ข้าง​ ข้างหลังมีพระยืนจีวรลายดอก​มีฉัตร 2 ข้าง​ ภายในมี​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​เรื่องสามก๊ก​ เขียนด้วยหมึกจีนสีดำ​ทั้ง​ 4 ด้าน​ จำนวนมากถึง 364 ตอน​ ใบเสมาหินทรายแดง​ อยู่ในซุ้ม​สี่เหลี่ยม​ 8 ทิศ​ ส่วนพระวิหารมีพาลัยเฉพาะด้านหน้า​ เสารับสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่​ หัวเสาไม่มีบัว​ ประตู​และ​หน้าต่างเจาะช่องเรียบ​ มีหลวงพ่อท้าวสุวรรณ​ พระปางสมาธิ​ สร้างจากหินทรายแดงศิลปะอู่ทอง​ เป็นพระประธาน​ มีพระปาง​มารวิชัย​ล้อมรอบข้างละ​ 3 องค์​ ตั้งอยู่​บนฐานชุกชีเดียวกันแบบสมัยอยุธยา​ตอนปลาย​ ข้างหน้ามีพระยืนปางห้ามญาติ​ และพระ​สังกัจจา​ยน์​ ข้างซ้ายมีพระอุปคุต​ และพระสีวลี​ ข้างขวามีหลวงปู่ทวด​ และพระศรีอริยเมต​ไต​รย​ถือตาลปัตรด้ามเล็ก ระหว่างพระอุโบสถ​ และพระวิหารมี​เรือนไทย​ มีพระปาง​มารวิชัย​ในซุ้มเรือนแก้ว​ ล้อมรอบด้วยเทพและพญานาค​ รอบๆ​ พระอุโบสถ​ และพระวิหารมีต้นชวนชมสวยงามมาก เมื่อ​ 2 สัปดาห์​ก่อนผมได้มาไหว้พระ​ 9 วัดแถบดาวคะนอง​ วันนี้ผมมาไหว้พระแถบราษฎร์​บูรณะ​ เริ่มจากวัดสน​ วัดแจง​ร้อน​ และวัดราษฎร์​บูรณะ​ ก่อนมาวัดประเสริฐ​สุทธาวาส​ แล้วจะไปต่อวัดบางปะกอกครับ

Bamroung Tangsanga เป็นวัดที่มีระเบียบสะอาดร่มเย็นมีลานจอดรถพอจอดรถได้จำนวนมากครับโบสถ์วิหารสวย มีรูปปั้นของเจ้าพระยาบดินทรเดชาให้สักการะด้วย

Arinrada Rukchobthum พระเศวตกุฏาคารวิหารยอด อาคารก่ออิฐถือปูนทรงปราสาทยอดมงกุฎประดับด้วยกระเบีื้ิงเคลือบสวยงาม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

Suporn Kulwatnantachai พระอาราม​โบราณขนาดไม่​ใหญ่​ เดิ​มชื่อว่า​วัด​บางยี่เรือกลาง​ หรือวัดกลาง​ เพราะอยู่กลางระหว่าง​ 2​ วัด​ คือ​วัด​บางยี่เรือ​ใน​ (วัดราชคฤห์)​ กับวัดบางยี่เรือนอก​ (วัดอินทราราม)​ เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา​ทั้ง​ 3 วัด​ เมืองธนบุรี​เดิมในสมัยนั้น ตั้งอยู่แถววัดศาลาสี่หน้า​ (วัดคูหาสวรรค์)​ มาตามคลองบางกอกใหญ่ถึงวัดราชคฤห์​ก่อนจึงเรียกวัดใน​ วัดจันทรารามอยู่กลางจึงเรียกวัดกลาง​ ถัดมาก็ถึงวัดอินทรา​รามจึงเรีบกวัดนอก​ ต่อมา​ในสมัย​รัชกา​ลที่​ ​3​ พระยาสุรเสนา​ (ขุนเณร)​ ได้บูรณะขึ้นใหม่​ และได้รับพระราชทาน​นามเป็นวัดจันทราราม​ ต่อมาภายหลังได้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง​ วัดตั้งอยู่​บนถนน​เทอดไทย​ ​ข้างซอย​ 10 หน้าวัดเดิมติดคลองบางกอกใหญ่​ ปัจจุบันเป็น​ตลาดวัดกลาง​ จากตลาดจะเห็นพระอุโบสถ​แบบ​พระราชนิ​ย​มใน​สมัย​รัชกา​ลที่​ ​3​ ไม่มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบัน​มีรูป​เครื่องสูงจีน​ หันหน้า​ไปทิศเหนือ​สู่​แม่คลอง​ มีระเบียงรอบ​ เสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่​ ไม่มีบัวหัวเสา​ ประตู​และหน้าต่างมีซุ้มปูนปั้น​ ปัจจุบัน​กำลังบูรณะ​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​รูปเครื่องสูงจีน​ ระหว่างประตูทางเข้ามีพระพุทธ​รูป​ไม้สักครึ่งซีกปางห้ามสมุทร​ทรงเทริด​ ซึ่งกรมศิลปากร​ขึ้น​ทะเบียน​ไว้​ ใบเสมาอยู่ใน​ซุ้ม​สี่เหลี่ยม​ 8 ทิศ​ ด้านหลังมีพระวิหารแบบพระราช​นิยม​ในสมัย​รัชกา​ลที่​ 3​ ตั้งขวาง​ เป็นผังแบบเดียวกับวัดราชโอรส​ วัดราชนัดดา​ ไม่ได้เปิดให้เข้า​ เมื่อสัป​ดาห์ก่อนผมได้มาไหว้พระ​ 9 วัดแถบบางขุนศรี​ วันนี้เป็นวันสถาปนาสมเด็จ​พระ​เจ้า​ตากสิน​ ผมได้ร่วมพิธีบวงสรวงที่วัดอรุณ​ราช​วราราม​ เสร็จแล้วมาไหว้พระต่อแถบตลาดพลู​ เริ่มจากวัดเวฬุราชิณ​ และวัดอินทรา​ราม​ สักการะศาลสมเด็จพระ​เจ้า​ตากสิน​ก่อนมาวัดจันทราราม​ แล้วจะไปต่อวัดราชคฤห์​ครับ

Nidnoi MakPai ดี